ผอ.สุวรรณภูมิ เผยวันนี้ นทท.จีน เข้าไทยอีก 3,500 คน ยืนยันภาพรวมเรียบร้อยดี
“สุวรรณภูมิ” เปิดเผย นักท่องเที่ยวจีน เดินทางเข้าไทย เรียบร้อยดี วันนี้มาอีกราว 3,500 คน คณะรัฐมนตรีฯศักดิ์สยาม กำชับดูแลทุกมิติ
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เผยถึงภาพรวม การเดินทางของนักเดินทางชาวจีน ที่เดินทางมายังเมืองไทย ภายหลังที่จีนประกาศเปิดประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2566 ก่อนหน้าที่ผ่านมา ว่า เรียบร้อยดี
โดยเมื่อวานนี้ (9 ม.ค.) ยอดผู้โดยสารชาวจีนเดินทางเข้ามา
โดยประมาณ 3,500 คน จาก 15 เที่ยวบิน ซึ่งปริมาณผู้โดยสารวันนี้ ก็จะใกล้เคียงกับวันที่ 9 มกราคม แล้วก็จะทยอยมากขึ้น ดังนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เน้นย้ำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้อำนวยความสะดวก และก็การให้บริการ นักท่องเที่ยวแล้วก็ผู้เดินทางในทุกมิติ
ตั้งแต่นักเดินทางเดินทางมาถึงเมืองไทย ให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะด่านตรวจคนเข้าเมือง เพื่อสอดคล้อง กับจำนวนเที่ยวบิน และผู้โดยสาร ที่เพิ่มขึ้น โดยคำนึงถึงความสะดวก รวดเร็วและก็ความปลอดภัย ของผู้โดยสารเป็นหลัก
สำหรับปัญหากระเป๋า สัมภาระของผู้โดยสารล่าช้านั้น ทางสนามบินสุวรรณภูมิ ได้กำชับผู้ให้บริการภาคพื้น ที่ให้บริการขนย้าย สัมภาระผู้โดยสาร ให้เพิ่มจำนวนพนักงาน เพื่อให้การจัดการขนถ่ายสัมภาระไม่ล่าช้า
นอกจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังได้กำชับเรื่องการ ให้บริการของรถแท็กซี่ ที่จะจะต้องเพียงพอ กับความต้องการ ของผู้ใช้บริการ โดยปัจจุบัน จำนวนแท็กซี่ที่ลงทะเบียน เพื่อบริการในสนามบินสุวรรณภูมิ มีปริมาณเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2,800 คัน แต่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะมีการจัดพื้นที่ ให้กับรถแท็กซี่ ที่เป็นแอพพลิเคชั่น ให้สามารถมารอรับ ผู้โดยสารได้อีกด้วย
นักท่องเที่ยวจีน วันแรกแห่เข้าไทยแน่น อนุทิน ไปรอรับ ไม่ต้องโชว์วัคซีน
อนุทิน ควงแขน ศักดิ์สยาม-พิพัฒน์ ต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนไฟลท์ แรก จากเมืองเซียะเหมิน 269 คนอย่างอบอุ่น ยอดรวมทะลักวันแรก 3,465 คน ลั่น สธ.ปรับแก้ข้อกำหนด สำหรับเพื่อการเข้าไทยอีกครั้ง ไฟเขียวผู้โดยสาร ไม่ต้องแสดงข้อมูล การรับวัคซีนครบ 2 เข็ม อ้างนักท่องเที่ยวโซนยุโรป ไม่ปลื้ม ส่งอานิสงส์ถึงทัวริสต์จีน ขณะที่ ททท.มั่นใจปีนี้ยอด-รายได้จากนักท่องเที่ยวจีน เป็นไปตามเป้า
ไตรมาสแรก 3 แสนคน ทั้งปี 5 ล้านคน เงินสะพัดกว่า 2 แสนล้านบาท ด้านอธิบดีกรมควบคุมโรค ยันยังไร้กังวล ที่ไทยพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ลูกผสม เดลตาและโอมิครอน “XAY.2” ส่วนถ้าเกิดพบนักท่องเที่ยวป่วยโควิด-19 ให้อยู่ในโรงแรมที่พัก เน้นมาตรการป้องกันตัว งดออกไปในที่ชุมชน เว้นอาการหนักถึงส่ง รพ.
ต่อจากนั้นเวลา 12.17 น. เมื่อเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 สายการบินเซี่ยเหมิน แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MF 833 ลงจอดเทียบอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ประตูทางเชื่อมเข้าอาคาร D 4 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ แล้วก็ รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะ
ได้มาเข้าแถวต้อนรับนักท่องเที่ยว ทั้งหมดอย่างอบอุ่น ด้วยการมอบพวงมาลัยดอกกล้วยไม้สด กระเป๋าของฝากที่แจก ให้นักท่องเที่ยว มี โบรชัวร์แบบสแกน จังหวัดเชียงใหม่ บุรีรัมย์ แหล่งท่องเที่ยว luxury รวมทั้งชุดกิฟต์เซตที่ระลึก จากการท่าอากาศยานไทย สร้างความประทับใจ ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เดินทางมาพร้อมกับเที่ยวบินที่ MF833 ทุกคนเป็นอย่างมาก
ถัดมา นายอนุทิน และคณะ เปิดแถลงข่าวที่รอบ ๆ โถงผู้โดยสารขาเข้า
โซน C ชั้น 2 ตึกผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า จากการเข้ามาดูสถานการณ์ การเดินทางเข้าประเทศ ของนักเดินทางคนจีน คณะแรก ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นการ เดินทางเข้ามาภายใต้ มาตรการป้องกันโรคโควิด-19 จากที่รัฐบาลไทยระบุ มีความเหมาะสม แล้วก็เน้นย้ำ ความสำคัญของความปลอดภัย ด้านสุขภาพ
มีการอำนวยความสะดวก และก็ความพร้อมในการต้อนรับ นักท่องเที่ยวทั้งจากประเทศจีน แล้วก็ทุกประเทศทั่วทั้งโลก ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีการเลือกปฏิบัติ การเปิดรับนักเดินทางจากจีนวันนี้ ส่งสัญญาณที่ดีต่อภาค การท่องเที่ยวของไทย มั่นใจว่าจะเพิ่มมูลค่า ด้านเศรษฐกิจ สร้างรายได้เข้าประเทศ พร้อมขอให้คนไทยทุกคน ร่วมกันต้อนรับนักท่องเที่ยว ภายใต้มาตรการป้องกันโรค โควิด-19 ที่ยังคงต้อง ดำเนินการอยู่
นอกจากนั้น นายอนุทินยังกล่าวด้วยว่า เมื่อตอนเช้า ที่ผ่านมา คณะกรรมการวิชาการ ภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ แห่งชาติ ได้หารือแก้ข้อกำหนด สำหรับในการเข้าเมืองไทย สำหรับผู้โดยสารต่างชาติ ที่เดินทางเข้าไทย เบื้องต้นมีการปรับเปลี่ยนว่า ผู้โดยสารที่อายุมากกว่า 18 ปี ไม่ต้องแสดงข้อมูล การรับวัคซีนครบ 2 เข็ม เพื่อไม่ให้ เป็นข้อกีดขวาง สำหรับการเดินทางท่องเที่ยว หลังจากเกิดกระแสนักเดินทาง โซนยุโรปยกเลิกการเดินทาง
ขณะเดียวกัน เว็บไซต์กรมควบคุมโรค เผยแพร่ยอดคนป่วยจากโรคโควิด-19 อาทิตย์ที่ 1 ของปี 2566 วันที่ 1-7 มกราคม2566 คนป่วยที่เข้ารักษาตัว ในโรงพยาบาล 997 คน เฉลี่ยวันละ 142 คน คนเสียชีวิต 58 คน เฉลี่ยวันละ 8 คน ผู้เจ็บป่วยปอดอักเสบ 382 คน คนป่วย ใส่ท่อช่วยหายใจ 247 คน
จัดว่าลดน้อยลงทุกยอด รวมทั้ง ที่กรมควบคุมโรค นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีไทย ตรวจพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ XAY.2 เป็นลูกผสมระหว่าง เดลตาและโอมิครอนว่า ยังมิได้มีข้อน่ากังวล เวลาที่ ส่วนของนักเดินทางต่างชาติ มีการเฝ้าระวัง ตั้งแต่ท่าอากาศยาน ถ้าหากนักท่องเที่ยวมีอาการป่วยไข้ และก็พบว่า ติดเชื้อโควิด-19
จะมีการส่งผลตรวจเชื้อ ไปยังกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งยังเป็นเชื้อเดิม ๆ จำนวนผู้ติดเชื้อและก็ผู้ป่วยมิได้เพิ่มมากขึ้น ส่วนวิธีการรักษาพยาบาล เวลานี้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องนอนในสถานพยาบาล ถ้าหากอาการน้อย ก็รักษาแบบ ผู้ป่วยนอก กรณีนักเดินทาง ถ้าป่วยโควิด-19 ให้อยู่ในโรงแรมที่พัก
โดยเป็นการรักษา แบบผู้ป่วยนอก ยังไม่จำเป็นที่ต้องเป็นฮอสพิเทล เป็นสถานพยาบาลชั่วคราว เราจะย้ำให้ผู้ป่วย ใส่หน้ากากป้องกันตัว เว้นระยะห่าง งดการออกไปสัมผัส ในที่ชุมชน ส่วนโรงแรม มีหน้าที่ระมัดระวัง ป้องกัน หากมีอาการมาก แนะนำให้ไปโรงพยาบาล ถ้าเกิดรักษาครบ ไม่มีอาการ ก็เดินทางกลับได้